สิ่งที่ต้องคิดและเตรียมตัวก่อนไปญี่ปุ่น

เมื่อมีความคิดที่จะลองไปทำงานที่ญี่ปุ่นก็ต้องเตรียมตัวหลายอย่างซึ่งรวมถึงการเรียนภาษาญี่ปุ่น ยิ่งเป็นการห่างจากประเทศตัวเองไปถึงญี่ปุ่นเพื่อทำงานก็ยิ่งต้องทำความเข้าใจกับครอบครัวและเตรียมตัวอย่างรอบคอบ แถมการทำงานในสภาพแวดล้อมที่ใช้ภาษาต่างออกไปก็อาจทำให้เกิดความกังวล เราจึงได้สอบถามชาวต่างชาติผู้มีประสบการณ์ทำงานเป็นผู้บริบาลที่ญี่ปุ่นถึงเหตุผลที่เลือกงานดูแลบริบาล การเตรียมตัวล่วงหน้าและวิธีการจัดการความกังวล โดยผ่านแบบสอบสอบถามและการสัมภาษณ์

Contents

เหตุใดถึงเลือกงานดูแลบริบาลที่ญี่ปุ่น [1]

เหตุผลของแต่ละคนก็ดูจะแตกต่างกันไป ตัวอย่างเช่น มีทั้งคนที่คิดอยากไปญี่ปุ่นตั้งแต่เด็กๆ คนที่มีประสบการณ์เป็นพยาบาลที่ประเทศตัวเองและอยากศึกษาการดูแลโรคสมองเสื่อม คนที่ได้ยินว่าคนญี่ปุ่นเป็นคนจริงจังจึงอยากทำงานด้วย เป็นต้น เราจึงลองถามชาวต่างชาติที่ทำงานดูแลบริบาลที่ญี่ปุ่นว่า เหตุใดจึงเลือกงานดูแลบริบาลที่ญี่ปุ่น 

・ “ฉันนึกถึงเวลาที่ต้องดูแลพ่อแม่ในอนาคตจึงอยากเรียนเรื่องการดูแลบริบาลของญี่ปุ่นไว้ให้ดี ฉันคิดว่างานดูแลบริบาลเป็นงานที่ยอดเยี่ยมที่คุณได้สั่งสมคุณธรรม” (คุณ M จากเมียนมาร์)

・ “สมัยประถม ฉันชอบไปสวนสนุกที่คนญี่ปุ่นเป็นคนสร้าง เลยคิดว่าอยากไปประเทศญี่ปุ่นที่เป็นคนสร้างสวนสนุกแบบนี้สักครั้ง หลังจากนั้นก็เข้าเรียนมหาวิทยาลัยจนได้รับวุฒิเป็นพยาบาล และได้รับการแนะนำจากอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยจึงได้ทราบว่าสามารถไปทำงานดูแลบริบาลที่ญี่ปุ่นและคิดว่าเป็นโอกาสที่ดี” (คุณ N จากอินโดนีเซีย)

・ “ฉันทำงานเป็นพยาบาลในโรงพยาบาลที่ประเทศตัวเอง ฉันชอบผู้สูงอายุมากและอยากศึกษาเรื่องการดูแลโรคสมองเสื่อมเลยมาที่ญี่ปุ่น” (คุณ P จากอินโดนีเซีย)

・ “ฉันทำงานเป็นพยาบาลทในโรงพยาบาลที่ประเทศตัวเอง ฉันชอบผู้สูงอายุมากและอยากศึกษาเรื่องการดูแลโรคสมองเสื่อมเลยมาที่ญี่ปุ่น” (คุณ P จากอินโดนีเซีย)

[1] Mitsubishi UFJ Research and Consulting Co., Ltd., “คู่มือเกี่ยวกับการยอมรับและสนับสนุนการทำงานผู้บริบาลชาวต่างชาติ” (ภาษาญี่ปุ่น)

 

การหาข้อมูลที่ประเทศของตัวเองเป็นอย่างไร

คุณ Riswanti จากอินโดนีเซียบอกว่า “สมัยเรียนมหาวิทยาลัยและให้บริการดูแลที่บ้าน (Home Help Service) ฉันได้ยินเรื่องการดูแลบริบาลของญี่ปุ่นจากครอบครัวที่ไปเยี่ยมจึงหาข้อมูลงานบริบาลที่ญี่ปุ่นโดยละเอียดทางอินเตอร์เน็ต” นอกเหนือจากนี้ก็มีคนที่หาข้อมูลงานบริบาลที่ญี่ปุ่นจากแหล่งต่างๆ เช่น “เห็นประกาศในหน้าเว็บไซต์กระทรวงสาธารณสุข แรงงานและสวัสดิการของญี่ปุ่น พอเข้าไปอ่านเลยได้ทราบเรื่องการดูแลบริบาล” “ได้ยินเรื่องงานบริบาลของญี่ปุ่นจากเพื่อนที่ทำงาน” เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีงานแนะนำและงานสัมมนาออนไลน์ที่จัดขึ้นในแต่ละประเทศ เราจึงอยากแนะนำให้ผู้ที่สนใจลองหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต มีการจัดงานสัมมนาออนไลน์ตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2020 จนถึงครึ่งแรกของปี 2021 สำหรับผู้ที่มาจากอินโดนีเซีย เมียนมาร์ มองโกเลีย เนปาลและกัมพูชาสามารถดูรายละเอียดได้ที่นี่

 

เตรียมตัวก่อนไปญี่ปุ่นนานแค่ไหน

เมื่อตัดสินใจแล้วว่าจะไปญี่ปุ่น จะไปทำงานดูแลบริบาล มีหลายคนที่ใช้เวลา 1-1 ปีครึ่งก่อนจะได้มาที่ญี่ปุ่น อย่างไรก็ตามเวลาในการเตรียมตัวมักต่างกันไปตามทักษะภาษาญี่ปุ่นและความสนใจในการดูแลบริบาล นอกจากนี้การทำความเข้าใจกับครอบครัวและการได้เจอสถานบริบาลที่จะตอบรับเข้าทำงานก็เป็นปัจจัยที่ส่งผลอย่างมากต่อการเตรียมตัว คุณ HOANG THI NGOC ANH จากเวียดนามบอกว่า “ฉันเริ่มคิดว่าจะไปทำงานบริบาลที่ญี่ปุ่นตอนเรียนจบมหาวิทยาลัย หลังจากนั้นก็ใช้เวลาประมาณปีครึ่งจนได้มาที่ญี่ปุ่น”

นอกเหนือจากนั้น สิ่งที่ลืมไม่ได้ในการเตรียมตัวก่อนมาญี่ปุ่นคือการเลือกทีอยู่อาศัย คุณ Hoang เล่าว่า “ฉันเลือกที่อยู่ที่ญี่ปุ่นของฉันโดยปรึกษากับคนในสถานบริบาลที่รับเข้าทำงาน เรื่องที่ปรึกษากันก็เช่น ค่าเช่าของที่ที่อยากอยู่ อยู่คนเดียวหรือสองคน ใกล้หรือไกลจากสถานบริบาล เดินทางไปทำงานด้วยการเดินหรือจักรยาน ความปลอดภัยบริเวณรอบๆ อพาร์ทเม้นท์ เป็นต้น พวกเขาช่วยเหลือฉันเป็นอย่างดี”

 

ความเข้าใจจากครอบครัวก็สำคัญ

คุณ Riswanti จากอินโดนีเซียบอกว่าเธอได้ทำงานดูแลบริบาลที่ญี่ปุ่นด้วยการสนับสนุนจากครอบครัว “ไม่มีใครในครอบครัวคัดค้านการไปญี่ปุ่นของฉันเลย กลับกันพวกเขาสนับสนุนฉันโดยบอกให้พยายามให้ดีที่สุด สิ่งที่เป็นการสนันสนุนฉันมากสุดที่คือตอนที่ได้ยินคำพูดจากพ่อแม่บอกว่า ไม่ต้องห่วงอะไรเรื่องครอบครัว ไปทำให้ดีที่สุดที่ญี่ปุ่นนะ พ่อแม่จะคอยเป็นกำลังใจให้เสมอ”

ในอีกทางหนึ่งบางครั้งก็อาจต้องมีการโน้มน้าวพ่อแม่เช่นกัน คุณ Albert Fernandez จากฟิลิปปินส์เล่าว่า “ตอนแรกพ่อแม่คัดค้านผมที่ตั้งใจจะไปทำงานเป็นผู้บริบาลที่ญี่ปุ่น ผมคิดว่าเป็นเพราะพ่อแม่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับงานผู้บริบาล แถมเขาอาจคิดว่าควรทำงานเป็นพยาบาลมากกว่าเป็นผู้บริบาล ก็ใช้เวลาเกลี้ยกล่อมกันแต่เขาก็ช่วยสนับสนุนในที่สุด”

 

เรื่องอะไรที่กังวลก่อนไปญี่ปุ่น

“วิถีชีวิตในญี่ปุ่นค่ะ ฉันนับถือศาสนาอิสลามจึงไม่สามารถทานอาหารบางอย่างได้ เลยกังวลว่าจะหาซื้ออาหารฮาลาลได้ที่ซูเปอร์ใกล้ๆ ไหม” คำตอบจากคุณ Riswanti จากอินโดนีเซีย

หลายคนแก้ปัญหาเรื่องความกังวลในการไปญี่ปุ่นล่วงหน้าด้วยการปรึกษากับผู้บริบาลที่มาจากประเทศเดียวกับตัวเองซึ่งทำงานอยู่ที่ญี่ปุ่นหรือสอบถามข้อมูลจากคนที่ทำงานในสถานบริบาล นอกจากนี้พอใกล้ถึงเวลาเดินทางก็ยิ่งมีเรื่องให้ต้องติดต่อเป็นภาษาญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นจึงมีบางคนเป็นกังวลเรื่องภาษา มีความเห็นหนึ่งบอกว่า “สิ่งที่ฉันกังวลคือเรื่องความสามารถทางภาษาญี่ปุ่น เพราะคิดว่าถ้าไม่ได้ภาษาญี่ปุ่นก็จะทำอะไรไม่ได้เลยตั้งใจเรียนอย่างมาก” 

ถ้าคุณมีความไม่สบายใจเรื่องอาหารการกิน ศาสนาหรือวิถีชีวิตใดๆ การไปปรึกษากับคนหลายๆ คนก็เป็นทางลัดของการแก้ไขปัญหา

 

 

 

Scroll to Top